10/10/2553

สิว สำคัญนะจะบอกให้

ใครเกิดมาหน้าใสเรียบเนียนตั้งแต่เด็กจนแก่ คงไม่เข้าใจ ทำไมสาวๆ ที่มีสิวชอบทำเหมือนจะเป็นจะตายกะอีแค่มีสิว ไม่ได้เป็นมะเร็ง เบาหวาน หรือไข้หวัด 2009 ซะหน่อย แต่คนที่เป็นสิวเหมือนกัน มองตาแล้วก็เข้าใจกันว่า มันก็ไม่ได้จะเป็นจะตายหรอกนะ...แต่มันเซ็งงงงงงงงงง เข้าใจไหม!!! ก็แค่อยากเป็นคนผิวหน้าปรกติ ไม่ต้องเนียน เด้งอะไรมากก็ได้ ขอแค่อย่าให้มันมีเม็ดปูดๆ แดงๆ เด่นมาแต่ไกลเท่านั้นเอง

ใครที่เคยเป็นสิวแบบเรื้อรัง คงจะพอนึกออกใช่ไหมคะว่า สิวเนี่ยมันเป็นเพื่อน "ทุกข์" เพื่อน "ยาก" มากเลย คือมีมันแล้วก็จะ"ทุกข์" แล้วมันก็หาย "ยาก" ถึงยากที่สุด บางทีแกล้งทำเนียนๆ หายไปสาม สี่วัน กำลังอารมณ์จะดี ตื่นมาอีกที เม็ดเป้งกลางหน้าผากหรือปลายคางผุดมาอีกแล้ว ฮือ ฮือ แกจะจองล้างจองผลาญฉันไปถึงไหน ไอ้สิวบ้า!!!

ดรีมเองสู้กับสิวมาตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ปาเข้าไป 35 แล้ว ก็ยังมีมันเป็นเพื่อนทุกข์ เพื่อนยาก ไม่ยอมไปไหนซักทีค่ะ เราก็สงสัย ทำไมตอนวัยรุ่นหน้าเนี๊ยน เนียน สิวพันธ์ไหน ไม่ว่าสิวผด เม็ดข้าวสาร สิวอักเสบ อะไรก็ไม่เคยมีกะเขาซักที จนเพื่อนชมว่า หน้าทำไมเนียนเหมือนลงแป้งไว้ตลอดเวลาเช่นนี้ แต่อยู่ดีๆ พอใกล้จะบรรลุนิติภาวะ สิวก็มาเยือนเอาดื้อๆ ซะงั้น ตอนแรกมันก็เกรงใจ มาทีละเม็ดสองเม็ดนานๆ ที เราก็ โอ้ย สิวเรื่องเล็ก อีกอาทิตย์ก็หาย เดี๋ยวเนียนเหมือนเดิม! แต่พอเริ่มแก่ สิวมันก็เริ่มซอยค่ะ คือ ซอยความถี่ของการขึ้นเม็ดใหม่ ประเภทที่ว่าเม็ดเก่าไม่ทันหาย เม็ดควายใหม่ก็เข้ามาแทรก รอยแดง รอยดำเริ่มสะสม หน้าเนียนๆ ขาวๆ ก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป กลายเป็นหน้ากระดำ กระด่าง

พอมันเปลี่ยนจากเรื่องเล็กมาเป็นเรื่องใหญ่ ก็ต้องวิ่งแจ้นหาหมอซิคะ หามาตั้งแต่เป็นนึกศึกษาน่ะแหละคะ จนป่านนี้แล้ว ก็ยังต้องหอบหน้าแก่ๆ ของตัวเองไปแย่งคิวหมอสิวกับพวกวัยรุ่นเขาอยู่เป็นพักๆ พอมันไม่หายซักที บวกกับเริ่มหันมาสนใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น ได้อ่านหนังสือ ตำราต่างๆ ก็เลยเกิดความคิดใหม่ขึ้นมาว่า สงสัยแนวทางรักษาเรามันจะไม่ถูกซะละมั่ง เพราะเปลี่ยนคลีนิค เปลี่ยนเครื่องสำอางค์มาก็แทบจะหมดทุกแบรนด์แล้ว ก็ยังเป็นสิวอยู่ ชะรอยมันจะเป็นเรื่องของภายในซะละมากกว่ามั่ง หรือ อย่างที่เขาบอกๆ กันว่า เมื่อสุขภาพร่างกายเราไม่แข็งแรง หรือมีสารพิษในร่างกายเยอะ ระบายไม่ทัน มันก็จะขับออกมาทางผิวหนังหรือ สิวนี่เอง

พอเริ่มเชื่ออย่างนี้ ก็ได้ฤกษ์เริ่มมหากาพย์แห่งการกำจัดสารพิษในร่างกายค่ะ ตั้งแต่กินยาจีนขับสารพิษ อดอาหาร 3 วัน 5 วัน ใช้ supplement ประเภท colon cleansing, liver cleansing จากอเมริกา ตรวจเลือดหาสารอาหารที่ร่างกายเราขาดแคลน ทานวิตามินวันละหนึ่งกำมือ ฯลฯ แต่ไม่อยากจะบอกเลยคะ ว่าผ่านไปสิบกว่าปี ไอ้เพื่อนคู่ทุกข์คู่ยากนี่มันก็ยังอยู่..มันไม่ยอมหายค่าาาาาาาาาา!!

จริงๆ แล้ว มันก็มีหลายคน โดยเฉพาะพวกฝรั่ง ที่เขายืนยันนะคะว่า หากดำรงชีวิตแนวสุขภาพจริงๆ คือ ทำ detox ออกกำลัง ทานแต่อาหารดีๆ พวกผัก ผลไม้ งดเนื้อสัตว์ อาหารหวานๆ มันๆ ดูแลระบบขับถ่ายให้ดีๆ แล้วสิวก็จะสามารถหายไปได้อย่างถาวรจริงๆ ซึ่งดรีมก็เชื่อแหละคะว่า เขาคงไม่ได้โกหก และมัน work กับเขาจริงๆ แต่มันคงไม่ใช่สำหรับทุกคน เพราะถ้าคนที่เป็นสิวจากการแพ้เครื่องสำอางค์ ต่อให้ detox แค่ไหนก็คงไม่หาย ถ้ายังใช้เครื่องสำอางค์ตัวต้นเหตุอยู่ จริงไม๊คะ และที่สำคัญคือ การดำรงชีวิตแบบนั้น มันยากมากๆๆๆๆ ค่ะ

การรักษาสิวจากภายในต้องอาศัยความมุ่งมั่นสูงมากที่จะปฏิเสธของอร่อยๆ ที่เคยชอบ คนที่เราทานข้าวด้วยก็อาจจะอึดอัดรำคาญว่า ไอ้โน่นก็กินไม่ได้ ไอ้นี่ก็กินไม่ได้ ดรีมยังจำได้ว่า ช่วงที่อดอาหาร 5 วัน ดื่มแต่น้ำผลไม้กับสมุนไพรล้างพิษของฝรั่ง ดรีมโหยมากๆแทบไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไรเลย หิวก็หิว แต่ก็ไม่ยอมกินนะคะ เอาแต่ขอดมอาหารของสามีแก้อยากไปพลางๆ ใครนึกภาพตามคงนึกเวทนาดรีมน่าดู เห็นไม๊คะ ว่า เรื่องสิวน่ะมันสำคัญขนาดไหน ดรีมยอมทำถึงเพียงนี้ก็เพราะหวังว่า จะได้หายจากสิวอย่างถาวรเสียที แต่ดรีมก็อดทนทำได้ไม่นานหรอกค่ะ สักพักก็ต้องหวนกลับไปดื่มกาแฟเย็น กินของทอดที่เคยชอบๆ อีกจนได้ แล้วก็พยายามกลับไปล้างพิษใหม่ วนเวียนอยู่อย่างนี้ สิวก็ไม่หาย

สรุปว่า ดรีมลองมาเกือบหมดทุกทางค่ะ บางวิธีอาจจะช่วยได้บ้าง แต่สุดท้ายมันก็ไม่เคยหายไปอย่างถาวร ดรีมหมดไปเป็นแสนล่ะค่ะ ถ้ารวมเอาตั้งแต่ค่ายาหมอผิวหนัง ค่าทำเลเซอร์ ค่า supplement ต่างๆ ที่พยายามหามารักษาอาการสิว

บางคนอ่านมาถึงตอนนี้ คงนึกอยากประณามดรีมว่า หลอกให้อ่านมาซะตั้งนาน เพื่อที่จะบอกว่า เธอทำมาทุกทางแล้วมันก็ไม่หายแค่เนี้ยนะ!! จริงๆ ก็...เอ่อ...แค่นี้แหละคะที่จะบอก ตามชื่อเรื่องว่า "สิว สำคัญนะจะบอกให้"ไม่งั้นผู้หญิงคนหนึ่งจะทุ่มเทแรงกาย แรงใจ และเงินทองซะขนาดนี้ เพื่อขอให้หายจากโรคนี้เชียวเหรอ ดรีมยังเคยคิดเล่นๆ ว่า ถ้าดรีมทุ่มทุน ทุ่มเวลาให้กับเรื่องเรียนเท่ากับเรื่องสิว ป่านนี้ดรีมคงจบดอกเตอร์สาขานาโนเทคโนโลยีไปแล้วแน่ๆ ค่ะ

ใครที่ได้ผ่านเข้ามาอ่านบทความนี้ ดรีมแค่อยากจะบอกคุณว่า คุณไม่ได้เป็นคนเดียวในโลกที่กำลังเผชิญปัญหานี้อยู่นะคะ อย่างน้อยก็มีดรีมที่กำลังเผชิญกับปัญหาโลกแตกนี้อยู่อีกคน บวกกับอีกไม่รู้กี่ล้านคนในโลก ดรีมก็ไม่กล้าจะเก็งตัวเลข แต่ลอง google เรื่องของสิวเป็นภาษาต่างๆ ดู แล้วคุณจะรู้ว่า ผู้คนจำนวนมากๆๆๆ กำลังเป็นทุกข์เพราะไอ้เรื่องสิวๆ อยู่เหมือนกับคุณ

ตอนหน้า ดรีมจะมาเล่าให้ฟังถึงเคล็ดลับที่ทำให้ดรีมมีชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้นแม้ว่าจะยังเป็นสิวอยู่ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับใครบางคนที่กำลังประสบปัญหาแบบเดียวกันนะคะ

จนกว่าจะพบกันใหม่ค่ะ
ดรีม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น